อ่านนิยายฉบับย่อ เรื่อง: {the CEO} เพื่อนพ่อสุดแซ่บ!
{the CEO}
เพื่อนพ่อสุดแซ่บ!
โดยก็ แซ่บนะ
🌶️🌿: บทที่ 1
ลมหนาวต้นฤดูพัดโชยต้องผิวกายบอบบางของอักษรินทร์ในชุดเดรสผ้าลินินสีขาวบริสุทธิ์ที่พลิ้วไหว เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียนที่ก้าวเดินอย่างมั่นคงบนพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบของอาคารระฟ้าใจกลางมหานครกรุงเทพฯ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลิลลี่ที่แซมประดับอยู่รอบโถงทางเดินไม่อาจกลบกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคั่วบดชั้นดี และกลิ่นอายแห่งอำนาจที่แผ่ออกมาจากทุกอณูของ ‘ฟิเดลลัส กรุ๊ป’ อาณาจักรธุรกิจที่บิดาของเธอภาคภูมิใจนัก และในวันนี้...คือวันแรกที่เธอได้ก้าวเข้ามาในฐานะนักศึกษาฝึกงานในแผนกการตลาด ซึ่งเป็นความฝันของเธอมาโดยตลอด
อักษรินทร์ หรือ ‘อันดา’ สาวน้อยวัยยี่สิบปี ร่างระหงดุจนางในวรรณคดีไทย ดวงหน้าหวานหยดราวรูปปั้นกรีก ดวงตาคู่คมกลมโตเป็นประกายดั่งห้วงน้ำลึก ริมฝีปากอิ่มเอิบสีเชอร์รี่ที่มักคลี่แย้มรอยยิ้มบางเบา ยามยิ้มมีลักยิ้มบุ๋มลงไปเล็กน้อย รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น สะโพกผายได้รูป ทรวงอกอิ่มเต็มเผยร่องลึกยามสวมเสื้อคอกว้าง เธอมีเรือนผมยาวสลวยสีดำขลับประบ่า คลอเคลียพวงแก้มนวลเนียน เธอราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดแห่งอุดมคติของศิลปิน เป็นสาวราศีตุลย์โดยแท้ ที่ความงามและความสมดุลคือหัวใจ เธอมักจะใช้เหตุผลนำพาอารมณ์เสมอ แต่ก็มีความอ่อนไหวซ่อนเร้นอยู่ภายในของเธอ ยามนี้หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและกังวล มือเรียวของเธอกำสายกระเป๋าสะพายแน่น ดวงตาคู่สวยของเธอกวาดมองไปรอบๆ ราวกับจะซึมซับทุกรายละเอียดของโลกใบใหม่ใบนี้อย่างตื่นตะลึง
ขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับภาพตรงหน้า เสียงทุ้มนุ่มลึกทว่าแฝงด้วยอำนาจบางอย่างก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “อันดาหรือเปล่า?”
อักษรินทร์สะดุ้งเล็กน้อย เธอหันกลับไปตามเสียง และวินาทีนั้นเอง โลกทั้งใบของเธอก็พลันหยุดหมุน...
ชายหนุ่มผู้ยืนอยู่ตรงหน้าคือมาคัส เลิศเมธากุล หรือ ‘มาร์ค’ ดวงหน้าคมคายราวรูปสลักของเทพบุตรกรีก เส้นผมสีน้ำตาลเข้มปัดเสยขึ้นเผยหน้าผากกว้างรับกับคิ้วเข้มหนาได้รูป ดวงตาคู่คมสีฮาเซลฉายแววเฉียบคมและลึกล้ำ ยากจะหยั่งถึง ริมฝีปากหยักลึกบางเฉียบที่คลี่รอยยิ้มบางๆ เผยให้เห็นไรเคราจางๆ ที่ประปรายรอบสันกรามแข็งแกร่ง เขาสวมสูทสีเทาเข้มเนื้อดีที่ตัดเย็บอย่างประณีตรับกับเรือนกายสูงใหญ่สมส่วนของชายวัยสี่สิบสองปี ที่กาลเวลาไม่อาจทำอะไรเขาได้เลย กลับกันมันยิ่งหล่อหลอมให้เขาทรงเสน่ห์และเปี่ยมอำนาจมากขึ้นไปอีก มาคัสคือชายในฝันของหญิงสาวนับล้าน เป็นซีอีโอผู้ทรงอิทธิพลแห่งฟิเดลลัส กรุ๊ป ผู้ที่พ่อของอันดาภาคภูมิใจนักที่ได้เป็นเพื่อนกับชายผู้นี้ ‘มาคัส’ ผู้ที่ได้รับฉายาว่า ‘ปีศาจแห่งวงการธุรกิจ’ ไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยที่น่าสะพรึงกลัว หากแต่เป็นคำจำกัดความที่แม่นยำที่สุดสำหรับบุรุษผู้มีอำนาจล้นเหลือคนนี้ ดวงตาของเขาคมกริบดุจใบมีดโกน รอยยิ้มที่มุมปากซึ่งไม่บ่อยนักที่ใครจะได้เห็น กลับเย็นชาเสียจนผู้คนรู้สึกหนาวสะท้านถึงขั้วกระดูก เขาไม่เคยประนีประนอมกับความผิดพลาด ไม่เคยให้อภัยความอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น และความสำเร็จที่เขาสร้างขึ้นมาทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดจากความเฉลียวฉลาด ความทะเยอทะยาน และความเด็ดขาดที่ยากจะมีใครทัดเทียมเขาได้ เขามีบุคลิกของชาวราศีกุมภ์อย่างเด่นชัด เป็นคนฉลาดล้ำ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มักจะมีความคิดที่แหวกแนวและไม่เหมือนใคร เขาเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบการเสแสร้ง และมักจะปิดกั้นตัวเองจากอารมณ์ที่อ่อนไหวเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและอำนาจของตนเอง
"สวัสดีค่ะคุณมาคัส" อันดารีบยกมือไหว้ด้วยความเคารพ นอบน้อมอย่างที่บิดาของเธอเคยสอน น้ำเสียงหวานใสของเธอแฝงความประหม่าเล็กน้อยที่ไม่อาจปกปิด
มาคัสพยักหน้ารับช้าๆ รอยยิ้มบางๆ นั้นยังคงประดับอยู่บนใบหน้าคมคายของเขา "โตเป็นสาวแล้วสินะ จำแทบไม่ได้เลย" ดวงตาคู่คมกริบสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างเปิดเผย ไม่ได้ซ่อนเร้นความชื่นชมในความงามที่ผลิบานเต็มที่ของเธอ ความแตกต่างของสถานะและวัยถูกเน้นย้ำด้วยชุดสูทเรียบหรูของเขาที่ตัดกับเดรสสีขาวบริสุทธิ์ของเธอ รวมถึงแววตาของผู้ใหญ่ที่มองเด็กสาว...ทว่าแฝงด้วยบางสิ่งบางอย่างที่อันดาเองก็ยังไม่เข้าใจและไม่กล้าที่จะทำความเข้าใจ
🌶️🌿: บทที่ 2
หลังจากวันแรกของการฝึกงานผ่านไปอย่างราบรื่น อันดาพบว่าเธอต้องทำงานภายใต้การดูแลของมาคัสโดยตรงในโครงการพิเศษที่ซับซ้อนและท้าทาย ซึ่งเขาได้มอบหมายให้เธอรับผิดชอบด้วยตัวเอง นั่นทำให้ทั้งคู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เคมีบางอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ แต่รุนแรง ราวกับกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่เริ่มไหลผ่านเส้นประสาท
วันหนึ่ง ในห้องประชุมส่วนตัวของมาคัส แสงไฟสลัวจากโคมไฟตั้งพื้นสะท้อนเงาของทั้งคู่บนผนังกระจกใส มาคัสยืนอยู่ข้างโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ แขนแกร่งเท้าขอบโต๊ะ มองตรงมาที่อันดาซึ่งกำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มือเรียวของเธอกำปากกาแน่นขณะพยายามจดบันทึกข้อมูลที่เขาอธิบายด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอำนาจ เธอกัดริมฝีปากล่างเบาๆ ด้วยความตั้งใจ แต่สำหรับมาคัสแล้ว ภาพนั้นกลับเย้ายวนใจอย่างประหลาด ราวกับดอกไม้บริสุทธิ์ที่กำลังเชิญชวนผีเสื้อให้มาดอมดม
“เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดทั้งหมดใช่ไหม อันดา?” เสียงของเขาดังขึ้นใกล้กว่าที่คิด จนอันดาสะดุ้งเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นสบตา มาคัสโน้มตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าคมคายของเขาอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบ กลิ่นหอมสะอาดของน้ำหอมราคาแพงผสมกับกลิ่นเฉพาะตัวของเขาโชยมาแตะจมูกเธอ ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
“เข้าใจค่ะ…คุณมาคัส” เธอตอบเสียงแผ่ว พยายามควบคุมเสียงของตนเองไม่ให้สั่นเทิ้มด้วยความประหม่า แต่ก็ไม่เป็นผล
มาคัสเผยรอยยิ้มที่มุมปาก เผยให้เห็นรอยหยักลึกที่มุมปากของเขา “ดีมาก ฉันชอบคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆ” ดวงตาคมกริบคู่นั้นยังคงจ้องมองเธอไม่วางตา สายตาที่เต็มไปด้วยอำนาจและความต้องการที่เธอไม่เข้าใจกำลังแผ่ซ่านเข้ามาในโสตประสาท เขาวางมือลงบนโต๊ะข้างๆ มือของเธอ บังคับให้เธอต้องถอยมือออกเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง สัมผัสที่เธอรู้ดีว่ามันจะจุดไฟในร่างกายของเธอให้ลุกโชน “ฉันคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากโครงการนี้ และจากเธอด้วย อันดา”
มันไม่ใช่แค่คำพูด มันคือการประกาศิตที่แฝงไปด้วยความท้าทาย และอันดาก็รู้สึกถึงแรงกระตุ้นบางอย่างที่อยากจะพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น แรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานนี้กำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบงัน และเธอไม่รู้เลยว่ามันจะนำพาเธอไปสู่จุดใด จุดที่เธออาจจะก้าวข้ามขีดจำกัดที่ตัวเองเคยตั้งไว้
🌶️🌿: บทที่ 3
บ่ายวันหนึ่งขณะที่อันดากำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะในแผนก ดวงตาจับจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ มาคัสก็เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสารหนาปึกสีดำขลับที่บ่งบอกถึงความสำคัญของมัน
“อันดา เธอเข้ามาในห้องทำงานของฉันหน่อย” เสียงของเขาเรียบเฉยแต่แฝงด้วยความเด็ดขาดที่ยากจะปฏิเสธ อันดารีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เธอเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และทำไมเขาถึงเรียกเธอเป็นการส่วนตัว
เมื่อเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของมาคัส ประตูบานใหญ่ที่ทำจากไม้เนื้อดีก็ปิดลงเบื้องหลังเธอทันที เผยให้เห็นห้องทำงานที่กว้างขวาง หรูหรา สง่างาม แต่กลับให้ความรู้สึกกดดันอย่างประหลาด แสงไฟสลัวสาดส่องลงมาจากเพดานสูง เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีสีเข้ม จัดวางอย่างเป็นระเบียบ สะท้อนถึงบุคลิกของผู้เป็นเจ้าของที่เปี่ยมด้วยระเบียบวินัยและความเนี้ยบในทุกกระเบียดนิ้ว
“นั่งลงก่อน” มาคัสเอ่ยขึ้นพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่เบื้องหลังโต๊ะทำงานหินอ่อนสีดำขลับที่ดูโอ่อ่าสมกับตำแหน่งของเขา เขาเลื่อนแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้ามาทางเธออย่างจงใจ อันดาเห็นหัวข้อใหญ่ๆ บนหน้าปก ‘โครงการอัลฟ่า’
“โครงการนี้กำลังมีปัญหาใหญ่ อันดา และฉันคิดว่าเธอคือคนเดียวที่จะช่วยฉันได้” น้ำเสียงของเขามั่นคง หนักแน่น ราวกับว่าเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือ แต่กำลังออกคำสั่ง
อันดาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ “ปัญหาอะไรคะคุณมาคัส?”
“การนำเสนอข้อมูลผิดพลาด และมีคนจงใจบิดเบือนข้อมูลบางอย่างเพื่อให้โครงการนี้ล้มเหลว” มาคัสอธิบาย น้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แววตาของเขาแข็งกร้าว แฝงด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน “ฉันต้องการให้เธอไปดูข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเองที่สำนักงานสาขาต่างประเทศ”
“แต่…ที่นั่นเป็นที่ที่คุณมาคัสต้องไปไม่ใช่หรือคะ?” อันดาเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอรู้ดีว่าโครงการนี้สำคัญกับเขามากเพียงใด และโดยปกติแล้ว มาคัสจะไม่ยอมมอบหมายให้ใครทำแทนเด็ดขาด
มาคัสเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือประสานกันบนโต๊ะทำงาน ดวงตาคู่คมของเขาจ้องมองเธออย่างไม่วางตา “ใช่ แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องด่วนที่นี่ที่ต้องจัดการ เธอต้องไปกับฉัน อันดา”
คำว่า ‘ไปกับฉัน’ ทำให้หัวใจของอันดาเต้นกระหน่ำอีกครั้งราวกับจะหลุดออกมาจากอก ความรู้สึกร้อนวูบวาบแล่นปราดไปทั่วร่างของเธอ “ไปกับคุณอา…หมายความว่า…เราจะต้องเดินทางไปด้วยกันเหรอคะ?”
“ใช่ เราจะเดินทางด้วยกัน และพักที่นั่นด้วยกัน” มาคัสตอบ สีหน้าของเขาเรียบเฉยแต่ดวงตาของเขากลับฉายแววบางอย่างที่อันดาอ่านไม่ออก ราวกับมีประกายไฟเล็กๆ วาบผ่านไปในดวงตาคู่นั้น “ฉันได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า”
อันดาแทบจะหยุดหายใจกับคำประกาศของเขา การเดินทางไปต่างประเทศกับมาคัสสองต่อสอง มันไม่ใช่แค่การทำงานอีกต่อไป แต่มันคือการก้าวข้ามขอบเขตทางวิชาชีพและสถานะอย่างที่ไม่คาดคิด ความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นในมิติที่ซับซ้อนและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้มากนัก
🌶️🌿: บทที่ 4
เครื่องบินส่วนตัวขนาดใหญ่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าสีคราม ปล่อยให้อาคารสูงระฟ้าเบื้องล่างกลายเป็นเพียงจุดเล็กๆ ที่ค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา อันดาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังนุ่มสีครีม สวมหูฟังเพื่อฟังเพลงคลาสสิกเบาๆ ที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ แต่ในใจของเธอกลับไม่สงบ เสียงเครื่องยนต์ที่คำรามเบาๆ ไม่สามารถกลบเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของเธอได้ เมื่อหันไปมอง มาคัสกำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กำลังอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาเป็นระยะ ราวกับเขารับรู้ได้ถึงความกังวลของเธอ
เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง คือรีสอร์ตส่วนตัวที่ตั้งอยู่ริมหาดทรายขาวละเอียดน้ำทะเลสีครามที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา มาคัสจัดการทุกอย่างอย่างมีประสิทธิภาพ ราวกับเป็นผู้บัญชาการทัพ ห้องพักของทั้งสองอยู่ติดกัน มีประตูเชื่อมถึงกันได้ ซึ่งมาคัสยืนยันว่าเป็นไปเพื่อความสะดวกในการทำงาน ทว่าภายในใจของอันดากลับรับรู้ได้ถึงความเร่าร้อนที่แฝงอยู่เบื้องหลังคำอ้างนั้น คำอ้างที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างห้ามไม่ได้
คืนแรกในรีสอร์ต หลังจากที่ตรวจสอบเอกสารสำคัญเกี่ยวกับโครงการที่ซับซ้อนนี้เสร็จสิ้น มาคัสก็เชิญอันดาไปรับประทานอาหารค่ำที่ระเบียงห้องพักส่วนตัวของเขา แสงจันทร์สาดส่องลงมาต้องผิวน้ำทะเลระยิบระยับราวกับเพชรนับล้านเม็ดที่โปรยปรายลงบนพื้นผิวน้ำ ลมทะเลพัดเอื่อยๆ พาเอาไอเค็มอ่อนๆ และกลิ่นอายของดอกลีลาวดีที่ปลูกแซมอยู่รอบๆ มารวมตัวกันและแตะปลายจมูกเธอ ทำให้บรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อ
“อาหารเป็นยังไงบ้าง?” มาคัสถามขึ้นขณะรินไวน์แดงฉ่ำสีทับทิมให้เธออย่างบรรจง
“อร่อยมากค่ะ คุณมาคัส” อันดาตอบ พลางจิบไวน์ช้าๆ แก้มเนียนของเธอขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไวน์รสเลิศ หรือเพราะความประหม่าที่อยู่ใกล้เขามากเกินไป
มาคัสเผยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองสบตาเธออย่างลึกซึ้ง “เรียกฉันว่ามาร์คเถอะ”
คำพูดนั้นราวกับค้อนทุบลงกลางใจ ทำให้แก้วไวน์ในมือของอันดาเกือบหลุดมือ ดวงตาคู่สวยของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ “คะ?”
“เรียกฉันว่ามาร์ค จะได้รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น” เขาพูดซ้ำ ช้อนตาขึ้นมองเธอ นัยน์ตาคู่คมลึกล้ำราวห้วงมหาสมุทรฉายแววขี้เล่นเล็กน้อย “หรือเธออยากให้ฉันเรียกเธอว่า ‘เด็กดี’?”
คำว่า ‘เด็กดี’ ทำให้อักษรินทร์รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า ภาพของการเล่นบทบาท Dominant/Submissive ที่เธอเคยอ่านเจอในนิยายผุดขึ้นมาในความคิดอย่างช่วยไม่ได้ เธอมองเขาสลับกับแก้วไวน์ในมือ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “ค่ะ…คุณอามาร์ค”
มาคัสยิ้มกว้างขึ้น รอยยิ้มนั้นทำให้ใจของอันดาละลาย “ดีมาก เด็กดี”
บทบาทที่ชัดเจนขึ้นเริ่มต้นขึ้นในคืนนั้น แม้จะไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาตรงๆ แต่สายตาและท่าทางของมาคัสก็ชัดเจน เขาคือ Dominant ที่ควบคุมทุกสิ่งอย่าง และเธอกำลังก้าวเข้าสู่บทบาท Submissive อย่างเต็มใจ ราวกับต้องมนต์สะกด
🌶️🌿: บทที่ 5
วันรุ่งขึ้น หลังจากการทำงานที่สำนักงานสาขา ซึ่งเต็มไปด้วยตัวเลขและแผนภูมิที่ซับซ้อน อันดาและมาคัสกลับมายังรีสอร์ต ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและงานที่หนักหน่วงทำให้อันดารู้สึกเพลียจนแทบหมดแรง เธอจึงขอตัวกลับห้องไปพักผ่อน โดยไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นอีก
แต่แล้ว เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นในอีกไม่กี่นาทีต่อมา เมื่ออันดาเปิดประตูออก ก็พบมาคัสยืนอยู่ตรงหน้า เขาเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวที่ปลดกระดุมเผยให้เห็นแผงอกกว้างและกล้ามเนื้อแข็งแกร่งภายใต้เนื้อผ้าบางเบา กางเกงขาสั้นสีเข้มเผยให้เห็นเรียวขายาวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงของเขา
“ฉันนอนไม่หลับ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะอ่านออก ดวงตาคู่คมจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของอันดา ราวกับกำลังจะสะกดจิตเธอ “ฉันคิดว่าเราควรจะคุยกันเรื่องโครงการต่อให้จบ”
อันดาพยักหน้าช้าๆ เดินถอยให้เขาเข้ามาในห้องอย่างว่าง่าย หัวใจของเธอยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ และความรู้สึกร้อนผ่าวเริ่มก่อตัวขึ้นในช่องท้อง มาคัสเดินตรงไปยังระเบียงห้องที่มองเห็นวิวทะเล แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องกระทบกับเรือนร่างสูงใหญ่ของเขา อันดารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในห้วงแห่งมนต์สะกดที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง
“มานี่สิ อันดา” เขาเอ่ยเรียกรอบที่สอง เสียงของเขาเต็มไปด้วยคำสั่งที่ยากจะปฏิเสธ อันดาเดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า มาคัสคว้าข้อมือเรียวของเธอไว้เบาๆ แต่แฝงด้วยความมั่นคง ดึงเธอเข้ามาใกล้จนร่างของเธอแนบชิดกับอกแกร่งของเขา หัวใจของอันดาเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก กลิ่นหอมกรุ่นจากกายของเขารุนแรงขึ้นจนเธอรู้สึกมึนงง
“เธอน่ารักมาก อันดา… เด็กดีของฉัน” มาคัสกระซิบเสียงพร่า ริมฝีปากอุ่นร้อนจรดลงบนขมับของเธอ ก่อนจะไล้ลงมาที่แก้มเนียน ปลายจมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มนวลเนียนหอมกรุ่นของเธอ ดวงตาของอันดาปิดพริ้มลงอย่างเชื่องช้า ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในสัมผัสของเขา สัมผัสที่เร่าร้อนแต่แสนอ่อนโยนที่พาเธอไปสู่โลกอีกใบ
“คุณอามาร์ค…” เธอครางเรียกชื่อเขาแผ่วเบา เสียงแหบพร่าอย่างไม่น่าเชื่อ
“ชู่ว…” มาคัสใช้นิ้วเรียวยาวแตะลงบนริมฝีปากอิ่มของเธอ “อย่าพูดอะไรเลยตอนนี้”
เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา ริมฝีปากของเขาประกบเข้ากับริมฝีปากของเธออย่างช้าๆ อ่อนโยนแต่แฝงด้วยความปรารถนาที่ยากจะต้านทาน…
จูบแรกนั้นเริ่มต้นอย่างเนิบนาบ ราวกับกำลังสำรวจรสชาติของกันและกัน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่ถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ริมฝีปากหนาบดเบียดเคล้นคลึงริมฝีปากอิ่มของเธออย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากหวาน ไล่ต้อนลิ้นเล็กของเธอให้เต้นระบำตามจังหวะเร่าร้อนของเขา อันดาตอบสนองอย่างไม่รู้ตัว มือเรียวเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งของเขา ปลายนิ้วเกี่ยวรั้งเส้นผมท้ายทอยของเขาอย่างเผลอไผล
มาคัสอุ้มอันดาขึ้นในอ้อมแขน แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับอกแกร่งของเขา เขาเดินตรงไปยังเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่จัดเตรียมไว้ ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา ยามที่ร่างของเธอถูกวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา แต่แฝงด้วยอำนาจการควบคุม เธอมองเห็นดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ลุกโชน แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้อันดามองเห็นโครงหน้าคมคายและไรเคราของเขาได้อย่างชัดเจน
เขาโน้มตัวลงมาทาบทับร่างของเธอไว้ สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของร่างกายที่เบียดชิด ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในทุกอณูของร่างกาย ชายหนุ่มจูบซับตามซอกคอขาวเนียนอย่างดูดดื่ม ไล้ต่ำลงมาที่ไหปลาร้าสวยงาม ปลุกเร้าทุกเซลล์ประสาทให้ตื่นขึ้น อันดาเงยหน้าขึ้นรับสัมผัส มือเรียวยกขึ้นขยุ้มกลุ่มผมหนาของเขาอย่างอดรนทนไม่ไหว
“คุณอามาร์ค…หนู…” อันดาครางแผ่วเบา สติเริ่มเลือนรางไปกับสัมผัสวาบหวาม
“เด็กดี…” มาคัสกระซิบเสียงแหบพร่า สอดมือเข้าใต้เสื้อผ้าของเธอ สัมผัสกับผิวเนื้อนุ่มหยุ่นที่ร้อนผ่าว นิ้วเรียวไล้เลื้อยไปตามโครงร่างบอบบางอย่างช้าๆ ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่ทรวงอกอวบอิ่มที่เต้นระรัว
ฉากรักดำเนินไปอย่างเนิบนาบแต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเย้ายวนใจ มาคัสเป็นฝ่ายนำทุกอย่าง ชี้ทางให้อันดาค้นพบความสุขที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเธอ การเล่นบทบาท Dominant/Submissive ของเขานั้นไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นการนำทางอย่างอ่อนโยน ให้เธอได้สำรวจความต้องการและขอบเขตของตัวเอง ภายใต้การควบคุมที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา
หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ลึกซึ้งขึ้นกว่าแค่ทางกาย มาคัสเริ่มเปิดเผยปมในใจบางอย่างที่เขาเก็บซ่อนไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องราวการสูญเสียภรรยาและลูกชายในอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน รวมถึงความโดดเดี่ยวที่กัดกินจิตใจของเขาเสมอมา อันดาเป็นผู้รับฟังที่ดี เธอโอบกอดเขาไว้แน่น มอบความอบอุ่นและความเข้าใจที่เขาไม่เคยได้รับจากใคร
🌶️🌿: บทที่ 6
ทว่าความสุขนั้นกลับอยู่ได้ไม่นาน ปมในอดีตของมาคัสที่ถูกเปิดเผยกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่เริ่มกัดกินหัวใจของเขา เขารู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับความบริสุทธิ์ของอันดา และความกลัวที่จะสูญเสียเธอไปซ้ำรอยอดีตทำให้เขาก่อกำแพงขึ้นมาอีกครั้ง มาคัสเริ่มตีตัวออกห่าง อันดาเริ่มสังเกตเห็นความห่างเหินและสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่เขาพยายามซ่อนไว้ภายใต้เปลือกนอกที่แข็งแกร่ง
“คุณอามาร์ค เป็นอะไรไปคะ?” อันดาเอ่ยถามขึ้นในคืนหนึ่ง ขณะที่มาคัสกำลังยืนมองวิวทะเลอยู่บนระเบียงห้องพัก แผ่นหลังกว้างของเขาดูโดดเดี่ยวภายใต้แสงจันทร์
มาคัสหันกลับมามองเธอ ดวงตาคู่คมฉายแววสับสนและลังเลอย่างเห็นได้ชัด
“ฉัน…ฉันคิดว่าเราควรจะหยุดเรื่องนี้ไว้แค่นี้ อันดา” น้ำเสียงของเขาหนักแน่น แต่แววตาของเขากลับสั่นไหวเล็กน้อย
คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจของอันดา ร่างกายของเธอชาไปทั้งร่าง
“หมายความว่ายังไงคะ?”
“เธอยังเด็กนัก อันดา อนาคตของเธอยังอีกไกล ฉันไม่อยากจะผูกมัดเธอไว้กับผู้ชายอย่างฉัน” มาคัสตอบเสียงเรียบ พยายามรักษาระยะห่างจากเธอ แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความปวดร้าวที่ไม่อาจซ่อนเร้นได้
อันดาน้ำตาคลอเบ้า ดวงตาแดงก่ำด้วยความผิดหวัง
“แต่หนูรักคุณ อามาร์ค! หนูไม่สนใจอดีตของคุณอาเลย” เสียงของเธอสั่นเครือ พยายามจับมือเขาไว้ แต่เขากลับหลบ
“เธอไม่เข้าใจหรอก อันดา ฉันมันอันตราย ฉันไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บปวดเพราะฉัน” มาคัสเดินเข้ามาใกล้ เธอยื่นมือออกไปหวังจะสัมผัสเขา แต่เขากลับถอยหลังหนีราวกับเธอเป็นเปลวไฟที่พร้อมจะเผาผลาญเขาให้มอดไหม้ “เราควรจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้”
นอกจากปมในใจของมาคัสแล้ว อุปสรรคจากภายนอกก็เริ่มเข้ามาแทรกแซง เมื่อวรัญญา อดีตคนรักของมาคัสที่ยังคงหลงเหลือความรู้สึกดีๆ ให้กับเขา กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง โดยอ้างว่าต้องการร่วมงานกับฟิเดลลัส กรุ๊ป วรัญญาพยายามเข้ามาใกล้ชิดมาคัส พยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่าๆ และส่งสายตาเหยียดหยามมายังอันดาเสมออย่างเปิดเผย ไม่ปิดบัง
“เธอคิดว่าเธอเหมาะสมกับคุณมาคัสเหรอจ๊ะหนูอันดา? เธอยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจโลกของผู้ใหญ่อย่างเขา”
วรัญญาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันในงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นให้มาคัส ราวกับเธอคือเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั้น
คำพูดเหล่านั้นยิ่งตอกย้ำความไม่มั่นคงในใจของอันดา และความเย็นชาที่มาคัสแสดงออกก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกกรีดแทง
🌶️🌿: บทที่ 7
สถานการณ์บีบคั้นถึงขีดสุดเมื่ออันดาได้ยินบทสนทนาระหว่างมาคัสกับวรัญญาโดยบังเอิญในงานเลี้ยงที่แสนอึดอัด มาคัสพยายามผลักไสวรัญญาออกไปอย่างสุภาพด้วยเหตุผลทางธุรกิจ แต่คำพูดของวรัญญาที่ว่า “คุณยังรักฉันอยู่ใช่ไหมมาคัส คุณแค่หลอกตัวเองว่าผู้หญิงคนนั้นจะเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่หายไปได้” กลับทำให้หัวใจของอันดาปวดร้าวราวถูกมีดกรีดอย่างช้าๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อันดารีบหนีออกมาจากงานเลี้ยง น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย เธอรู้สึกราวกับถูกหลอกใช้ รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่สิ่งของชั่วคราวที่จะเข้ามาเติมเต็มความว่างเปล่าในใจของมาคัสเท่านั้น เธอเก็บของใช้ส่วนตัวทั้งหมด และเขียนจดหมายลาทิ้งไว้บนโต๊ะ เธอตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ ในคืนนั้นโดยไม่บอกใคร ราวกับจะหายตัวไปจากชีวิตของเขาอย่างเงียบๆ
เมื่อมาคัสกลับมาถึงห้องพัก เขาพบจดหมายของอันดาวางอยู่บนโต๊ะ ลายมือหวัดๆ ที่เขียนด้วยน้ำตาทำให้หัวใจของเขาบีบรัด ใบหน้าคมคายซีดเผือดลงทันทีเมื่ออ่านข้อความที่ว่า ‘ฉันขอโทษนะคะคุณอามาคัส ฉันเข้าใจแล้วว่าฉันคงไม่มีวันเข้ามาแทนที่ใครได้…ลาก่อนค่ะ’
เขารีบวิ่งออกจากห้องพัก ตรงไปยังเคาน์เตอร์เช็กอินสนามบิน แต่ก็สายเกินไป เครื่องบินที่อันดานั่งได้ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล้ว เขายืนนิ่งอยู่กลางสนามบิน ท่ามกลางผู้คนที่พลุกพล่าน ความรู้สึกโดดเดี่ยวและว่างเปล่าเข้าปกคลุมจิตใจของเขาอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้ง เพราะเขารู้ดีว่าได้ทำลายความรักที่บริสุทธิ์ไปแล้วด้วยมือของตัวเอง ความรักที่เพิ่งจะผลิบานได้ไม่นาน
🌶️🌿: บทที่ 8
หลายเดือนผ่านไป อันดากลับมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯ เธอลาออกจากการฝึกงานที่ฟิเดลลัส กรุ๊ป และตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านหนังสือเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เธอชื่นชอบ เพื่อหลีกหนีจากทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมาคัส เธอพยายามใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง ยิ้มแย้มกับลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน แต่ภายในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและภาพจำของเขาที่ยังคงชัดเจนไม่เคยเลือนหายไป
ส่วนมาคัส หลังจากการจากไปของอันดา เขาก็ยิ่งจมดิ่งลงสู่ความโดดเดี่ยวที่กัดกินจิตใจยิ่งกว่าเดิม เขาพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อลืมเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ไม่เป็นผล ภาพรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และสัมผัสของอันดายังคงตามหลอกหลอนเขาไม่ห่าง ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ทำอะไร ก็ยังคงมีเงาของเธอปรากฏอยู่ในทุกที่ เขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับปมในใจที่ยังคงค้างคา มาคัสเริ่มเข้าบำบัดกับจิตแพทย์ และพูดคุยกับเพื่อนสนิทที่คอยให้กำลังใจ เขาค่อยๆ เรียนรู้ที่จะยอมรับการสูญเสียในอดีต และเปิดใจให้กับความรักครั้งใหม่ที่อันดาได้มอบให้ เขารู้แล้วว่าการหนีจากความรักที่แท้จริงนั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากับมัน
วันหนึ่ง ขณะที่อันดากำลังจัดเรียงหนังสืออยู่ในร้าน เธอได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหูเรียกชื่อเธอ “อันดา” เสียงที่เธอโหยหามาตลอดหลายเดือน
เธอหันกลับไปตามเสียง และภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอนิ่งงัน มาคัสยืนอยู่ตรงนั้นในชุดลำลอง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนและกางเกงยีนส์ ดูผ่อนคลายกว่าที่เคยเป็น แต่ดวงตาคู่คมของเขายังคงฉายแววความเจ็บปวดไม่ต่างจากเธอ
“คุณอามาร์ค…” เธอเอ่ยชื่อเขาแผ่วเบา น้ำเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ออกมา
มาคัสเดินเข้ามาใกล้เธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความหวัง “ฉันขอโทษ อันดา ฉันรู้ว่าฉันทำผิดไปมาก” เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือหนาของเขายังไม่กล้าสัมผัสเธอ
“คุณไม่ควรมาที่นี่ค่ะ” อันดาพูดเสียงแข็ง พยายามควบคุมอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วน แต่ดวงตาของเธอกลับแดงก่ำด้วยน้ำตาที่รื้นขึ้นมา
“ฉันรู้…แต่ฉันจำเป็นต้องมา” มาคัสพูดเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยความจริงใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“ฉันคิดถึงเธอ ฉันคิดถึงเธอมาก อันดา” เขาใช้มือเรียวยาวเชยคางของเธอขึ้นมาอย่างแผ่วเบา สบตาเธออย่างจริงจัง
“ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนโง่ ฉันกลัวที่จะสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันเคยสูญเสียทุกอย่างในอดีต แต่ฉันรู้แล้วว่าการผลักไสเธอออกไปมันเจ็บปวดยิ่งกว่า”
บทสนทนาที่ตรงไปตรงมาเกิดขึ้น มาคัสเปิดเผยทุกความรู้สึกในใจ ทั้งความกลัว ความเสียใจ และความรักที่เขามีต่อเธอ อันดารับฟังทุกคำพูด น้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ เพราะเธอเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน
🌶️🌿: บทที่ 9
การเผชิญหน้าครั้งนั้นทำให้ทั้งสองได้คลายปมในใจ มาคัสยอมรับความเปราะบางของตัวเอง และอันดาก็เข้าใจถึงความเจ็บปวดที่เขามี การแก้ไขปมในอดีตของมาคัสทำให้เขากลับมาเป็นคนที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง เขาสามารถก้าวข้ามความเจ็บปวดในอดีตได้ และพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับอันดาอย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องวรัญญา มาคัสจัดการด้วยความเด็ดขาด เขาตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดและปฏิเสธข้อเสนอทางธุรกิจของเธออย่างสิ้นเชิง โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้มีอะไรมาแทรกแซงความสัมพันธ์ของเขากับอันดาอีกต่อไป “คุณวรัญญา ผมขอเรียนให้ทราบว่าฟิเดลลัส กรุ๊ป ไม่มีความสนใจในข้อเสนอของคุณ และผมก็ไม่มีความประสงค์ที่จะร่วมงานกับคุณ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเด็ดขาด เมื่อวรัญญาพยายามจะเข้ามาใกล้ชิดอีกครั้ง “ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ และให้เกียรติในความสัมพันธ์ของผมกับอันดา”
หนึ่งเดือนต่อมา มาคัสจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลของเขา ที่เดียวกับที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เริ่มต้นและเกือบจบลง เพื่อเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิต
เขาคุกเข่าลงต่อหน้าอันดา ท่ามกลางแสงดาวพร่างพราวและเสียงคลื่นซัดสาดที่บรรเลงเพลงรัก “อันดา…เด็กดีของฉัน เธอจะให้โอกาสฉันได้ดูแลเธอไปตลอดชีวิตไหม?” เขาเอ่ยถาม พลางยื่นแหวนเพชรเม็ดงามที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนฟ้าให้เธอ
น้ำตาแห่งความสุขไหลรินอาบแก้มของอันดา เธอพยักหน้าอย่างช้าๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ค่ะคุณอามาร์ค…ฉันจะให้โอกาสคุณ และจะรักคุณตลอดไปค่ะ”
🌶️🌿: บทที่ 10
สามเดือนต่อมา งานแต่งงานของมาคัสและอันดาจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกที่โบสถ์ริมทะเลแห่งหนึ่ง มีเพียงครอบครัวและเพื่อนสนิทที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักและความสุข
ในคืนวันส่งตัวเข้าหอ แสงจันทร์ยังคงสาดส่องลงมายังห้องนอนที่ประดับประดาด้วยดอกไม้หอมกรุ่น อันดาอยู่ในชุดนอนผ้าไหมสีขาวบางเบาที่พลิ้วไหวตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศ มาคัสยืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือหนาโอบประคองใบหน้าหวานของเธอไว้ ดวงตาคู่คมฉายแววรักใคร่และปรารถนาอย่างลึกซึ้ง
“คืนนี้เธอเป็นของฉัน เด็กดี” มาคัสกระซิบเสียงแหบพร่า ริมฝีปากอุ่นร้อนจรดลงบนหน้าผากของเธอ ไล้ลงมาที่เปลือกตา แก้ม และหยุดลงที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ
จูบนั้นเริ่มต้นอย่างอ่อนโยน เต็มไปด้วยความรักและความทะนุถนอม ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนที่คุ้นเคย มาคัสจูบซับซอกคอขาวเนียนอย่างดูดดื่ม มือเรียวใหญ่เริ่มปลดกระดุมชุดนอนของเธออย่างช้าๆ เผยให้เห็นผิวเนื้อขาวเนียนภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา
“คุณอามาร์ค…” อันดาครางแผ่วเบา ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความปรารถนาที่ยากจะควบคุม
“ฉันจะดูแลเธออย่างดีที่สุด อันดา… เด็กดีของฉัน” มาคัสกระซิบตอบ เขาอุ้มเธอขึ้นในอ้อมแขน เดินตรงไปยังเตียงนอน ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยอำนาจและความรักที่ยากจะต้านทาน… Power Play ที่ยังคงอยู่ แต่เป็นไปในทางที่เย้ายวนและส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ชีวิตคู่ของมาคัสและอันดาเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ มาคัสยังคงเป็น CEO ผู้ทรงอิทธิพล แต่เขาก็แบ่งเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น อันดาเองก็ยังคงทำงานที่เธอรัก และเป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนสามีของเธอ พวกเขามีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างกัน และใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเร่าร้อน และความเข้าใจอย่างแท้จริง
✨👇✨ ปล. สำหรับคุณนักอ่านท่านไหนสนใจจะอ่านนิยายเรื่องนี้ต่อในแบบฉบับเนื้อหาอัดหนัก จัดเต็ม เผ็ดดุ จุใจ โปรดกดที่ link สำหรับ eBook ได้ที่นี่นะคะ ✨👇✨
🌶️🌿 {the CEO} เพื่อนพ่อสุดแซ่บ! <3 Link: https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTE3NjAyMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM4NTc3Nzt9
#นิยาย #นิยายรสแซ่บ #นิยายโรแมนติก #แนะนำนิยาย #ลานนิยายชายหญิง #TheBillionairesDarling #2025Trends #romantic #fiction
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น