ZODIAC ZAP: เพื่อนพ่อโคตรโหด

ZODIAC ZAP: เพื่อนพ่อโคตรโหด #หมื่นล้าสคำรัก

ZODIAc ZAP 🔞 เพื่อนพ่อโคตรโหด

ตัวละคร:

#อัลเลโอ (Al-Leo): ชายหนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทย-สเปน วัย 40 ปี นักธุรกิจผู้เก่งกาจทางด้านการลงทุน (พ่อมดทางการเงิน) ใบหน้าคมสันรับกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มักฉายแววเผด็จการและเย็นชา ทรงผมสีเข้มถูกเสยเปิดหน้าผากบ่งบอกถึงความมั่นใจ ร่างกายกำยำสมส่วนภายใต้เสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวที่เปิดกระดุมเผยให้เห็นแผงอกแข็งแรงและสร้อยทองคำขาวเส้นบาง นั่งเอนหลังบนเก้าอี้หวายหรูริมสระ

#กวีอัปสร หรือ 'จีเจย์': หญิงสาวอายุ 22 ปี บุตรสาวของแดเนียล (เพื่อนสนิทของอัลเลโอ) รูปร่างอรชร ผิวขาวอมชมพู เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวย ดวงตากลมโตซุกซนแต่ก็แฝงความฝันหวานและความดื้อรั้นไว้ภายใน ภายใต้ชุดเดรสผ้าชีฟองสีอ่อนที่ดูเรียบร้อย เธอกำลังเดินลงบันไดหินอ่อนมาราวกับภาพที่หลุดออกมาจาความฝัน

🍇 ตอนที่ 1: ไฟปรารถนา... ในเงาไร่องุ่น

คฤหาสน์หรูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนกลางไร่องุ่นชื่อดัง 'La Furia Roja' (เปลวเพลิงสีแดง) ทางตอนเหนือของประเทศ แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องกระทบผิวน้ำในสระว่ายน้ำผืนกว้างและยาวเหยียดราวทะเลสาบสีฟ้าเข้ม ด้านหลังเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยไร่องุ่นเขียวขจีกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา กลิ่นไอดินชื้นระคนกลิ่นองุ่นที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวอบอวลในอากาศ

เสียงเครื่องยนต์กับเสียงบดกรวดหินจากวงล้อของเบนซ์สีดำคันหรูที่เพิ่งถูกขับเคลื่อนลับหายไป ปล่อยให้ความเงียบสงบเคร่งขรึมของคฤหาสน์ทรงสเปนแทรกซึมเข้ามาแทนที่ กวีอัปสร คือแขกสาวผู้ก้าวลงจากรถก่อนหน้านั้นพร้อมกับลมหายใจที่ถูกกลั้นไว้เนิ่นนาน กลิ่นหอมของดอกราตรีที่ปลูกเรียงรายบริเวณทางเข้าลอยมาแตะจมูกผสมกับกลิ่นไวน์หมักอ่อนๆ ที่พัดมาตามลมเยียบเย็น เสียงใบไม้แห้งไหวเป็นระยะคือเสียงเดียวที่ท้าทายความเงียบสงัด... ยกเว้นเสียแต่เสียงหัวใจของเธอที่กำลังเต้นเร็วจนน่ากลัว ภายใต้ชุดเดรสสีขาวลูกไม้ตัวยาวที่ถูกเลือกมาอย่างตั้งใจเพื่อให้ดูอ่อนหวานและไร้เดียงสาที่สุดในสายตาของเขา อัลเลโอ (Al-Leo) หนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทย-สเปน วัย 40 ปี นักธุรกิจผู้เก่งกาจทางด้านการลงทุนจนได้รับฉายา ‘พ่อมดทางการเงิน’ ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของใบหน้าคมสันรับกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มักฉายแววเผด็จการและเย็นชา ทรงผมสีเข้มถูกเสยเปิดหน้าผากบ่งบอกถึงความมั่นใจ ร่างกายกำยำสมส่วนภายใต้เสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวที่เปิดกระดุมเผยให้เห็นแผงอกแข็งแรงและสร้อยทองคำขาวเส้นบาง นั่งเอนหลังบนเก้าอี้หวายหรูริมสระ

อัลเลโอ ชายผู้เป็นรักแรกและรักเดียวที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในหัวใจมานานหลายปีของ กวีอัปสร หญิงสาวเจ้าของเรือนร่างอันอรชร ผิวขาวอมชมพู เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวย ดวงตากลมโตซุกซนแต่ก็แฝงความฝันหวานและความดื้อรั้นไว้ภายใน ภายใต้ชุดเดรสผ้าชีฟองสีอ่อนที่ดูเรียบร้อย ที่เดินผ่านระเบียงเปิดโล่งไปยังโซนสระว่ายน้ำ เธอกำลังก้าวลงมาจากบันไดหินอ่อนราวกับภาพที่หลุดออกมาจากบทกวีแห่งความฝัน เมื่อสายตาปะทะกันกับร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ริมสระ ดวงตาของเธอก็พร่ามัวไปด้วยแสงอาทิตย์ที่สาดลงมาจากทางด้านหลังเขา

อัลเลโอนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ เขาสวมเพียงกางเกงสแล็คสีครีมกับเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวที่ปลดกระดุมซึ่งเผยให้เห็นแผงอกที่มีไรขนสีเข้มปกคลุม แสงแดดสาดกระทบผิวสีแทนที่ดูแข็งแกร่ง ทำให้หญิงสาวผู้ก้าวเข้ามาใหม่ต้องลอบกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดๆ ลำคอ

เขาดูดีขึ้น โหดขึ้น และอันตรายมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น ชายคนนั้นยกแก้ววิสกี้ในมือขึ้นจิบอย่างช้าๆ โดยไม่ละสายตาจากทิวทัศน์เบื้องหน้า ราวกับไม่รับรู้ถึงการมาถึงของเธอ เธอสูดหายใจลึก กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นน้ำหอมของผู้ชายที่ไม่ต้องบอกยี่ห้อก็รู้ว่าแพงมากลอยเข้ามาเมื่อเธอก้าวเข้าไปใกล้

"สวัสดีค่ะ... คุณอา" 

เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูเป็นผู้ใหญ่และสุภาพที่สุด อัลเลโอวางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะข้างตัวอย่างเชื่องช้า เสียง 'กึก' ที่กระทบกันดังชัดในความเงียบ เขาหันมาเผชิญหน้ากับเธอช้าๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั้นเป็นเหมือนเหวลึกที่ดึงดูดและทำลายในเวลาเดียวกัน สายตาของเขาไล่สำรวจเธอตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้าอย่างพิจารณาและเยือกเย็น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่แรงกดดันจากสายตานั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้าออกทีละชิ้น

"มาถึงแล้วหรือ จีเจย์น้อย" น้ำเสียงของเขาแหบต่ำ ทุ้มลึก และเต็มไปด้วยอำนาจอย่างที่เธอจำได้ดี "ฉันนึกว่าลูกสาวของแดเนียลจะชอบอยู่ใต้แสงสีของเมืองใหญ่เสียอีก" 

กวีอัปสรยิ้มอย่างแทบจะสามารถสั่งสายฝนให้หยดลงละลายภูเขาก้อนหินทั้งเทือกเขาก็ยังได้เมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อที่เขามักจะเรียกขานกับเธอในวัยเด็กเสมอ เธอเดินเข้าไปใกล้ขึ้นอีกสองสามก้าว แล้วหันมองออกไปยังไร่องุ่นก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใสเจือมุกตลกเล็กน้อยในนั้น

"คุณอาอย่าพูดจาเหมือนคนแก่ขี้ใจน้อยไปเลยค่ะ ไร่องุ่นของคุณอาสวยมาก แถมยังจะสะดวกสบายไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไรไม่ว่าจะตอนนี้หรือเมื่อก่อน อีกอย่างที่สำคัญ ตอนนี้มันยุคไหน ทำไมคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่จะต้องเอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ โดยไม่สนใจเรื่องธุรกิจการค้าด้วยล่ะ? และคุณอาก็น่าจะรู้ว่าที่จีเจย์มาที่นี่ก็เพราะอยากมาเรียนรู้เรื่องการลงทุนและหุ้นจาก ‘พ่อมดการเงิน’ โดยเฉพาะ และรู้ไหมว่ามันยากเย็นมากแค่ไหนกว่าจีเจย์จะอ้อนวอนขอให้คุณพ่อที่ขี้เกรงใจคุณอาอย่างยิ่งยวดจะยอมอนุญาตให้จีเจย์มารบกวนการบำเพ็ญตบะของมหาฤๅษีผู้เคร่งขรึม โหด ดุ แบบคุณอาได้น่ะ"

อัลเลโอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากหยักได้รูปเผยอรอยยิ้มที่มุมปาก ซึ่งดูอันตรายและเย้ยหยันในคราวเดียวกัน 

"ความอยากรู้เรื่องหุ้นของเธอ... มันเกิดขึ้นพร้อมๆ กับข่าวที่ฉันควงกับมาดามคนใหม่พอดีเลยนี่นะ จีเจย์" เขาเน้นย้ำคำว่า 'คนใหม่' ช้าๆ และชัดเจน "อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้เจตนาของเธอเลย... เด็กน้อย" 

ประโยคเดียวของเขาเหมือนสายฟ้าฟาดผ่ากลางความตั้งใจของเธอ มันเฉยเมย เย็นชา ตรงไปตรงมาจนน่ากลัว … เขารู้ความจริงทั้งหมดหรือเปล่า หรือแค่พยายามคาดเดาเหมือนที่เขาทำกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในกระดานของเขา? … กวีอัปสรเม้มปาก เธอพยายามควบคุมสีหน้าและแววตาไม่ให้แพรวพราวไปด้วยประกายไฟแห่งความอิจฉาริษยาที่ปะทุขึ้นเมื่อได้ยินคำว่า 'มาดามคนใหม่'

"อะไรกันคะ คุณอา... อย่าทำร้ายความตั้งใจดีของจีเจย์ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลหน่อยเลยค่ะ" เธอแกล้งทำเสียงน้อยอกน้อยใจก่อนจะเปลี่ยนกลยุทธ์ เดินเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิม จนกระทั่งกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิที่เธอแตะแต้มมาอย่างบางเบาลอยไปถึงเขา หยิบแก้ววิสกี้ของเขาขึ้นมาอย่างถือวิสาสะ จ้องมองของเหลวสีอำพันที่กำลังกระทบกับแสงแดดที่อ่อนแสงลงจากกาลเวลา: มันคือการท้าทายอย่างเงียบๆ 

"ใช่ก็ได้ค่ะ มันอาจจะเริ่มต้นด้วยเรื่องหุ้น... ก็จริง" เธอพูดเสียงแผ่ว แต่แววตาของเธอฉายชัดถึงอะไรบางอย่างที่ซ่อนเร้น "แต่... ใครจะรู้ล่ะคะ ว่าระหว่างที่อยู่ที่นี่ จีเจย์อาจจะได้บทเรียนที่น่าสนใจกว่าเรื่องหุ้น เรื่องธุรกิจก็ได้" 

เธอส่งแก้วคืนให้เขาอย่างจงใจให้ปลายนิ้วมือของเธอกระทบกับฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาเพียงเสี้ยววินาที

อัลเลโอนิ่งไปชั่วอึดใจ เขาจ้องมองนิ้วเรียวสวยของเธอที่แตะต้องแก้วของเขาอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครกล้าทำสิ่งนี้ต่อหน้าเขาได้โดยที่เลือดทุกหยดในกายไม่เย็นเยียบเป็นน้ำแข็ง ก่อนจะรับมันกลับมาไปโดยไม่ได้ปัด หรือหักข้อมือของเธอทิ้งไป กลับกัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขบขันที่ซ่อนเร้น 

"บทเรียนงั้นหรือ..." เขาจิบวิสกี้อย่างช้าๆ ดวงตาของเขามองผ่านขอบแก้วไปยังเธออย่างเหนือกว่า "ช่างน่าสนใจว่า…เธอกล้าพูดคำนั้นกับฉันเชียวหรือ กวีอัปสร?” อัลเลโอมองแก้วที่เขายกขึ้นมาหมุนเล่นในมือ

"เธอเป็นลูกสาวของเพื่อนรักของฉัน... เป็นจีเจย์ตัวน้อยที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก และเคยจูงมือเธอเข้าร้านไอศครีมนับครั้งไม่ถ้วน" เขาเน้นย้ำสถานะของเธอเพื่อตอกย้ำถึงกำแพงที่ขวางกั้น "และเธอไม่ควรลืมว่าฉันคือใคร... ฉันคืออัลเลโอ ผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อการครอบครอง และฉันคือผู้อำนวยการในทุกเกมที่ฉันเข้าร่วม" 

เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ร่างกายกำยำใหญ่โตของเขาบดบังแสงอาทิตย์ยามเย็นไปเกือบทั้งหมด เงาที่ทาบทับลงมาบนร่างของเธอทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมและถูกคุกคามในเวลาเดียวกัน กวีอัปสรเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่หวาดหวั่น เธอซึ่งมีความฝันและความโรแมนติกที่ยิ่งใหญ่ และนั่นมันก็มาพร้อมกับความดื้อรั้นและความลึกลับที่ไม่มีใครหยั่งถึงในนิสัยของเธอ

"ถ้าอย่างนั้น...ก็ไม่มีอะไรที่คุณอาต้องกลัวนี่คะ…" เธอเน้นคำว่า ‘กลัว’ อย่างท้าทายและมีนัยอีกหน ก่อนจะเริ่มเดินวนรอบตัวเขาอย่างช้าๆ เหมือนกับนางหมาป่าที่กำลังมองหาจุดอ่อนของเหยื่อตัวใหญ่และทรงอำนาจเกินกว่าของเธอ กลิ่นหอมหวานของเธอทิ้งร่องรอยไว้ในอากาศ "อนุญาตให้จีเจย์ได้เป็นผู้เรียนรู้ที่ดีที่สุดของคุณอา แล้วคุณอาจะรู้ว่า… จีเจย์ชอบที่จะถูก ‘ครอบครอง’ ในเกมที่ตื่นเต้นและท้าทาย" 

เธอหยุดอยู่ด้านหน้าเขา จ้องมองดวงตาที่แข็งกร้าวของเขาอย่างไม่หวั่นไหว "ถ้าคุณอาเก่งกาจจริงอย่างที่ตั้งใจจะข่มขู่ให้จีเจย์กลัวเหมือนตอนนี้... บางที…. คุณอาก็คงอาจครอบครองหัวใจของจีเจย์ไว้แล้วตั้งแต่หลายปีก่อน" 

ประโยคนั้นทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามของเขาเกร็งขึ้นเล็กน้อย แววตาที่เยือกเย็นก่อนหน้านี้เริ่มมีประกายไฟแห่งความปรารถนาและความโกรธเคืองที่ถูกปลุกขึ้นมา … ซึ่งกวีอัปสรย่อมรู้ดีว่าคำพูดของเธอคือการเปิดประตูสู่เกมที่ไม่ควรเริ่มต้น!

https://youtu.be/mVT03aQIIYg?si=nCUhmme1jCrpzkRu


🍇 ตอนที่ 2: เปลวไฟในบทเรียนแรก

ที่ห้องทำงานส่วนตัวของอัลเลโอ บนชั้นสองของคฤหาสน์ ภายในห้องกว้างใหญ่ที่ตกแต่งด้วยไม้เนื้อดีสีเข้ม หนังสือกองสูงบนชั้นหนังสือติดผนังสูงจรดเพดาน กลิ่นหนังเก่าจากโซฟาเชสเตอร์ฟิลด์สีน้ำตาลเข้มและกลิ่นซิการ์คิวบาอ่อนๆ ลอยอวลอยู่ในอากาศ หน้าต่างบานใหญ่เผยให้เห็นวิวไร่องุ่นยามค่ำคืนที่ประดับด้วยดวงดาวนับล้านดวง แสงไฟสลัวจากโคมไฟตั้งพื้นสร้างเงาและบรรยากาศอันน่าค้นหา

หลังจากมื้อค่ำที่เต็มไปด้วยความเงียบงันแต่แฝงไปด้วยกระแสไฟฟ้าแห่งความตึงเครียด ก่อนที่เขาจะพยักหน้าไปยังห้องทำงานส่วนตัวเสมือนการเชื้อเชิญ... หรือบางที…อาจจะเป็นคำสั่ง!

กวีอัปสรเดินตามหลังเขาเข้าไปในห้องทำงาน เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกหวาดหวั่นผสมกับความตื่นเต้นพลุ่งพล่านในอก เมื่อประตูไม้หนักบานใหญ่ปิดลง เสียง 'คลิก' ของกลอนประตูที่ลงกลอนดังชัดเจนในความเงียบ 

"เธอว่าเธออยากเรียนรู้เรื่องหุ้นใช่ไหม จีเจย์น้อย" อัลเลโอนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานหนังตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้โอ๊กขนาดมหึมา "ถ้าอย่างนั้น... มาเริ่ม ‘บทเรียนแรก’ กันเลย"

เขาหยิบรีโมทคอนโทรลขึ้นมา กดสวิตช์ม่านไฟฟ้าหนาหนักเลื่อนปิดลงอย่างช้าๆ แสงจากภายนอกถูกตัดขาด เหลือเพียงแสงไฟสลัวสีส้มจากโคมไฟที่ตกกระทบลงบนใบหน้าครึ่งซีกของเขา ทำให้ดูยิ่งลึกลับและน่าเกรงขาม 

"เธอเคยได้ยินคำว่า 'ความเสี่ยง' ไหม?" เขาถามด้วยน้ำเสียงต่ำ 

กวีอัปสรกลืนน้ำลาย เธอเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานโดยมีโต๊ะขนาดใหญ่กั้นกลางระหว่างพวกเขา 

"แน่นอนค่ะ... จีเจย์รู้ว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง" 

"ไม่พอ" เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาด "ความเสี่ยงที่แท้จริง... ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่เปลี่ยนไปในตลาดหุ้น"

เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหาเธออย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวของเขาสั่นไหวเข้าไปในหัวใจของเธอ 

"ความเสี่ยงที่แท้จริง... คือการที่เธอยอมมอบอำนาจให้กับใครสักคน" เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือที่ใหญ่และแข็งแกร่งของเขาแตะลงบนบ่าของเธออย่างแผ่วเบา แต่ก็เธอรู้สึกถึงการครอบงำนั้นอย่างชัดเจน "ในตลาดหุ้น... ฉันคือผู้กุมอำนาจ" 

เขายื่นมืออีกข้างไปดึงชายเสื้อเดรสลูกไม้ของเธอเบาๆ มันเป็นผ้าที่บอบบางและแทบโปร่งแสงอยู่แล้วก็ว่าได้ การสัมผัสที่จงใจของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงเนื้อผ้าที่เสียดสีกับผิวของเธอ "และในห้องนี้... ฉันก็คือผู้กุมอำนาจเช่นกัน"

กวีอัปสรเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่ลดละ ดวงตาของเธอฉายชัดถึงความท้าทายและไฟปรารถนาที่เธอไม่สามารถเก็บซ่อนได้ อย่างน้อยก็จากสายตาของเขา

"แล้วจีเจย์ล่ะคะ... จีเจย์มีอำนาจอะไรบ้าง" 

เธอถามด้วยเสียงพร่าไหวที่แทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบ รอยยิ้มแฝงแววอันตรายฉายกลับมาบนใบหน้าเข้มคมของเขา เขาก้มหน้าลงมาจนลมหายใจอุ่นๆ ของเขาปะทะเข้ากับไรผมของเธอ กลิ่นซิการ์และวิสกี้ชั้นดีทำให้ประสาทสัมผัสของเธอตื่นตัว 

"ไม่...เธอเป็นเพียง ‘เหยื่อ’ ที่เดินเข้ามาในกรงขังของตัวเอง" 

เขาตอบคำถามของเธอพร้อมกับใช้มือข้างที่อยู่บนบ่าบอบบางเลื่อนไล้ลงไปตามเรียวแขนของเธออย่างช้าๆ สัมผัสที่เย็นเยียบแต่แฝงด้วยความร้อนแรงทำให้ผิวของเธอเป็นขนลุกซู่ 

"แต่ ‘เหยื่อ’ ก็มีอำนาจของเหยื่อนะคะ คุณอา" เธอเชิดหน้าขึ้น "อำนาจในการยั่วเย้า โน้มน้าว และอำนาจในการทำให้ผู้กุมอำนาจหลงลืมกฎเกณฑ์"

คำพูดของเธอเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่สาดลงบนกองไฟที่เขาพยายามดับมาตลอดหลายปี อัลเลโอกระชับฝ่ามือที่จับกุมแขนเรียวของเธอ แน่นขึ้นจนเธอรู้สึกเจ็บแปลบบ้างเล็กน้อย แต่มันก็เป็นความเจ็บแปลบที่น่าตื่นเต้นและปลุกความรู้สึกแปลกประหลาดให้ตื่นตัว

"เธอกำลังท้าทายฉัน... จีเจย์น้อย" เสียงของเขาเปลี่ยนไป มันเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความต้องการที่ถูกจำกัดไม่ได้ เขาใช้มืออีกข้างเชยคางมนของเธอขึ้นช้าๆ บังคับให้เธอมองดวงตาของเขาอย่างไม่ยอมให้หลบหนี "แต่ไม่เป็นไรหรอก... ฉันมีวิธีที่จะสอนคนดื้อรั้นไม่กลัวแม้แต่เปลวไฟจะเผาไหม้อย่างเธอให้รู้ว่าอำนาจที่แท้จริงมันคืออะไร" 

เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้... จมูกคมสันของเขาแตะเข้ากับผิวแก้มของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสที่รอคอยมานานนั้นทำให้กวีอัปสรตัวสั่นสะท้าน เธอหลับตาลงรับสัมผัสที่กำลังจะมาถึง แต่เขาไม่ทำ ริมฝีปากของเขาเพียงแค่กระซิบชิดถ้อยคำที่ริมใบหูบอบบางของเธอ... เสียงที่แหบพร่าและเต็มไปด้วยแรงดึงดูด

"เงยหน้าขึ้น... มองหน้าฉัน... ทุกครั้งที่ฉันจะมอบบทเรียนให้แก่เธอ" 

คำสั่งจากน้ำเสียงที่ทุ้ม นุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยคำสั่งและการบังคับนั้นทำให้เธอต้องเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอฉายชัดถึงความต้องการที่กำลังจะล้นทะลัก อัลเลโอไม่รอช้า เขาเคลื่อนริมฝีปากของเขาไปยังซอกคอที่ขาวผ่องของเธอ เขาไม่ได้จูบ... แต่เขากลับใช้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมของผิวเธออย่างช้าๆ ลึกๆ ราวกับกำลังลิ้มรสไวน์ชั้นเยี่ยม กลิ่นหอมหวานของมะลิที่เธอแตะแต้มไว้ ผสมกับกลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอ และกลิ่นสาบผู้ชายที่ดูดิบเถื่อนของเขา มันเป็นกลิ่นผสมที่ทำให้เธอแทบคลั่ง เขาเริ่มกดจูบเบาๆ ไปตามเส้นสายของกระดูกไหปลาร้าที่เผยพ้นจากคอเสื้อ... ไล่ต่ำลง ต่ำลง จนกวีอัปสรต้องกัดปากตัวเองอย่างแรงเพื่อไม่ให้ส่งเสียงครางออกมา

"หอมหวาน... เหมือนองุ่นที่สุกงอมกำลังรอการเก็บเกี่ยว" เขาพูดเสียงต่ำพร่า "ใช่...ฉันรู้ดี… นี่คือกลิ่นกายของเธอ" เขาไล้ปลายลิ้นอุ่นๆ ของเขาไปตามเนินอกด้านบนที่ถูกปกปิดด้วยลูกไม้บางเบา ก่อนจะใช้ริมฝีปากและฟันครูดเบาๆ ไปบนเนื้อผ้าเหนือหัวใจของเธอ กวีอัปสรสูดหายใจเข้าอย่างแรง เธอรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่แล่นไปตามกระแสเลือด แขนขาอ่อนแรงลงจนเธอต้องใช้มือยันไว้บนกับแผงอกกว้างใหญ่และแข็งแกร่งของเขา

"คุณอา..." เธอเรียกเขาด้วยเสียงที่สั่นพร่า เขาเงยหน้า ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยความปรารถนาที่ถูกปลดปล่อย เขาไม่ตอบ... ขณะที่เขาดึงรั้งร่างของเธอเข้ามาชิดจนแนบสนิทกับร่างกายที่ร้อนผ่าวของเขา เธอรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งและตื่นตัวของเขาที่เบียดเข้ากับหน้าท้องของเธอ มันเป็นสัญชาตญาณดิบที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างไม่มีการยับยั้ง

"ถ้าเธออยากเรียนรู้เรื่อง…อำนาจ" เขาพูดเสียงกระซิบที่ดังราวกับเสียงคำราม "เธอต้องเข้าใจว่าอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด... คือการที่ฉันสามารถทำให้เธอ ‘คราง’ ออกมาได้ด้วยการสัมผัสเพียงเล็กน้อย" เขาปล่อยมือออกจากแขนของเธอ แต่กลับใช้มืออีกข้าง... เลื่อนขึ้นมา... แตะเข้ากับซอกคอที่เต้นระรัวของเธอ นิ้วหัวแม่มือของเขาคลึงเบาๆ ไปบนผิวที่อ่อนนุ่มนั้น กวีอัปสรปิดเปลือกตาลงอีกครั้งอย่างยอมจำนนต่อสัมผัสที่ร้อนรุ่มและเย้ายวน 

"ฉันเกลียดเสื้อผ้าของเธอ กวีอัปสร" เขาพูดเสียงต่ำ "มันเป็นกำแพง... ที่ฉันไม่ต้องการให้มีระหว่างเราอีกต่อไป" 

เขาเอื้อมมือไปด้านหลังของเธอ... เสียงซิปที่ถูกรูดลงอย่างเชื่องช้าดังชัดเจนในความเงียบสงัด



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

The Arabian Nights | กาลครั้งหนึ่ง ณ พันหนึ่งแห่งอาหรับราตรี

เปิดตัว Blog ใหม่ล่าสุดของนักเขียนรสแซ่บ "แมงมุมใต้เตียง" แหล่งรวมนิยายรักที่คุณห้ามพลาด!

ยั่วนักจะรักซะให้แซ่บส์!! | แมงมุมใต้เตียง [รีวิว]

คุณอารสเผ็ดส์!! : SUGAR BABY | แมงมุมใต้เตียง

เพื่อนพ่อคนนี้..แด๊ดดี้โคตรโหด! [Micro Fiction อ่านฟรี] | หมื่นล้านคำรัก

เอพริล: พ่อเพื่อนคนนี้..แด๊ดดี้พันธุ์แซ่บ | ก็ แซ่บนะ.⋆。🌶️˚

แซ่บส์!!...รสรักสาวน้อยจอมยั่ว | แมงมุมใต้เตียง

เจาะลึกโลกนิยายรสแซ่บ จัดจ้าน: จากนามปากกา "แมงมุมใต้เตียง"

อ่านนิยายฉบับย่อ เรื่อง: {the CEO} เพื่อนพ่อสุดแซ่บ!

แมงมุมใต้เตียง ก็แซ่บนะ มีเรื่องแล้ว หมื่นล้านคำรัก | นิยายรักรสแซ่บ!!